เทคนิคขับรถกลางคืน ปลอดภัยกว่าที่คิด ด้วยการเตรียมพร้อม

การขับขี่รถยนต์ในช่วงกลางคืนมีความเสี่ยงสูงกว่ากลางวันหลายเท่าตัว เนื่องจากทัศนวิสัยลดลง ความล้าของผู้ขับขี่ และแสงไฟที่อาจทำให้ตาพร่ามัว การเตรียมพร้อมและใช้เทคนิคขับรถยนต์ กลางคืนที่ถูกต้องจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเดินทางอย่างปลอดภัย

เทคนิคขับรถกลางคืนให้ปลอดภัย

1. เตรียมความพร้อมของรถ (Vehicle Check) 🛠️

• ไฟหน้าและไฟท้าย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟหน้าและไฟท้ายทำงานปกติและสะอาดอยู่เสมอ หากไฟหน้าเริ่มหมองหรือเหลือง ควรขัดหรือเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้แสงส่องสว่างได้เต็มที่
• กระจกและที่ปัดน้ำฝน: ทำความสะอาดกระจกหน้าต่างและกระจกมองข้างทั้งภายในและภายนอกให้ใสที่สุด เพราะคราบสกปรกจะทำให้แสงไฟฟุ้งกระจายจนตาพร่ามัวได้ง่าย ที่ปัดน้ำฝนต้องพร้อมใช้งานเพื่อรับมือกับฝนในยามค่ำคืน

2. เทคนิคการมองและการใช้ไฟ (Vision & Lighting) 🚦

• มองให้ไกลและใช้สายตาแบบกวาด: อย่าจ้องไปที่แสงไฟจากรถที่สวนมาโดยตรง แต่ให้มองไปที่ขอบทางด้านซ้ายมือแทน เพื่อรักษาระยะโฟกัสและป้องกันอาการตาพร่ามัวชั่วขณะ
• ปรับระดับไฟสูง-ต่ำอย่างเหมาะสม: ใช้ไฟสูงเมื่ออยู่ในถนนที่ไม่มีรถสวนหรือรถอยู่ด้านหน้า เพื่อเพิ่มระยะการมองเห็น และ ห้ามลืมเปลี่ยนเป็นไฟต่ำทันที เมื่อมีรถสวนหรือตามหลังรถคันอื่น เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง
• ลดแสงสว่างในห้องโดยสาร: ลดความสว่างของหน้าปัดรถยนต์และหน้าจอ GPS เพราะแสงที่จ้าเกินไปจะทำให้ม่านตาหดตัวและทำให้เรามองเห็นภายนอกได้ยากขึ้น

3. จัดการกับความเหนื่อยล้า (Fatigue Management) 😴

• พักผ่อนให้เพียงพอ: หากคุณรู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกลในเวลากลางคืน คืนก่อนหน้าควรพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
• แวะพักเมื่อจำเป็น: หากรู้สึกง่วง ให้แวะพักรถที่ปั๊มน้ำมันหรือจุดพักรถทันที การงีบหลับสั้น ๆ เพียง 15-20 นาทีก็ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้ อย่าฝืนขับรถขณะที่รู้สึกอ่อนเพลีย เพราะเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุร้ายแรง
• หาเพื่อนร่วมทาง: การมีผู้โดยสารนั่งไปด้วยจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัว และสามารถผลัดเปลี่ยนกันขับรถได้

ข้อสรุป: การขับรถตอนกลางคืนไม่ได้น่ากลัว หากเราเข้าใจความเสี่ยงและเตรียมตัวอย่างดี ทั้งการดูแลรักษารถ การใช้เทคนิคการมอง และการจัดการความเหนื่อยล้า ถือเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ