ค่าเงินบาทวันนี้ Sideways กรอบ 32.30-32.55 บาท

กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า ค่าเงินบาทวันนี้ (12 พ.ย. 68) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideways แม้จะมีปัจจัยจากต่างประเทศเข้ามากดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาทองคำที่สูงขึ้น แต่เงินบาทก็ยังขาดแรงส่งที่ชัดเจน

ปัจจัยเศรษฐกิจโลกกดดันดอลลาร์และค่าเงินบาท

เงินบาทที่เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways เกิดจากแรงกดดันและแรงหนุนที่ตีกันในตลาดโลก:

ดอลลาร์อ่อนค่าจาก ADP: ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจาก ตัวเลขการจ้างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ (ADP) ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้ US Treasury yields ปรับลดลงตามไปด้วย สถานการณ์นี้โดยปกติควรหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น
ราคาทองคำสูงขึ้น: ตัวเลข ADP ที่อ่อนแอได้หนุนให้ ราคาทองคำ กลับมาสูงขึ้น เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน
โอกาส BoE ลดดอกเบี้ย: อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรในไตรมาส 3 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 5% ทำให้ตลาดมองเห็นโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนกำลังจับตามอง

ปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาท

นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกแล้ว ยังมีประเด็นในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อความผันผวนของค่าเงินบาท:

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา: รัฐบาลไทยได้ระงับข้อตกลงหยุดยิง 4 ข้อกับประเทศกัมพูชา หลังจากมีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด เหตุการณ์ตึงเครียดเช่นนี้มักเป็นปัจจัยที่ กดดันให้ค่าเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลง บ้างตามภาวะความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

สรุป

ค่าเงินบาทวันนี้ ยังคงทรงตัวอยู่ในกรอบแคบ แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าลงจากตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ ซึ่งควรเป็นแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่า แต่ปัจจัยความตึงเครียดภายในภูมิภาคก็เข้ามาชะลอการแข็งค่าดังกล่าว ทำให้นักลงทุนยังคงรอดูความชัดเจนของทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ โดยเฉพาะ Fed และ BoE เป็นหลัก