
มะตูม: ผลไม้ไทยโบราณมากสรรพคุณ
มะตูม (Bael Fruit) เป็นผลไม้พื้นเมืองของอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับส้ม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aegle marmelos ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวและสรรพคุณทางยามากมาย ทำให้มะตูมเป็นที่รู้จักและนิยมนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านอาหาร เครื่องดื่ม และยาสมุนไพรมาตั้งแต่สมัยโบราณ
มะตูมคืออะไร?
มะตูมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ ดอกสีขาวอมเขียวอ่อน มีกลิ่นหอมแรง ผลมีลักษณะกลมรี หรือกลมแป้น เปลือกแข็งและหนา เมื่อสุกจะมีสีเหลืองอมส้ม เนื้อด้านในนิ่ม มีกลิ่นหอมหวาน และมีเมล็ดเล็กๆ จำนวนมาก
ในประเทศไทย มะตูมถือเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏอยู่ในความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการนำมาทำเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่า “น้ำมะตูม”
สรรพคุณและประโยชน์ของมะตูม
มะตูมมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุดคือ ผลมะตูม ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทั้งผลดิบ ผลสุก และผลแห้ง
- ผลดิบ:
- แก้อาการท้องเสีย: เป็นสรรพคุณเด่นที่รู้จักกันดี เพราะมะตูมดิบมีสารฝาดที่ช่วยสมานลำไส้และลดอาการท้องร่วง
- แก้บิด: ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อ
- ขับลม: ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
- บำรุงธาตุ: ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
- ผลสุก:
- เป็นยาระบายอ่อนๆ: ช่วยแก้อาการท้องผูก เนื่องจากมีกากใยสูง
- บำรุงกำลัง: ให้พลังงานและช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- ช่วยให้เจริญอาหาร: เหมาะสำหรับผู้ที่เบื่ออาหาร
- แก้กระหายคลายร้อน: ด้วยรสชาติหวานหอมและเย็นชื่นใจ
- บำรุงหัวใจ: มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต
- ใบมะตูม:
- ลดไข้: ใช้ต้มน้ำดื่ม
- แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ: ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
- รากและเปลือกต้น:
- แก้พิษไข้: ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย
- บำรุงธาตุ: ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
การนำมะตูมมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
- น้ำมะตูม: เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ทำจากมะตูมแห้ง นำมาต้มกับน้ำจนได้กลิ่นหอมและรสหวาน นิยมดื่มเพื่อดับกระหาย คลายร้อน และบำรุงสุขภาพ
- ขนมหวาน: นำเนื้อมะตูมสุกมาทำขนมต่างๆ เช่น มะตูมเชื่อม หรือเป็นส่วนผสมในขนมไทย
- ยาแผนโบราณ: มะตูมเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับยาแผนโบราณหลายชนิด
- อาหาร: สามารถนำมะตูมไปเป็นส่วนประกอบในอาหารบางชนิดได้ เช่น แกง
ข้อควรระวังในการบริโภคมะตูม
แม้จะมีประโยชน์ แต่การบริโภคมะตูมก็ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ
- ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง: ควรระมัดระวังในการบริโภคมะตูมดิบ เพราะอาจทำให้อาการท้องผูกแย่ลงได้
- ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค เนื่องจากมะตูมอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด
สรุป
มะตูมเป็นผลไม้และสมุนไพรคู่บ้านคู่ครัวของไทยที่มีคุณค่ามายาวนาน ด้วยสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพและช่วยรักษาอาการต่างๆ การนำมะตูมมาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมจะช่วยให้เราได้รับคุณค่าจากผลไม้ชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่
สนใจอยากรู้สูตรการทำน้ำมะตูม หรือเมนูอื่นๆ จากมะตูมไหมคะ?